การเปลี่ยนแปลงแก้ไข

   1. นศท.ต้องรายงานสถานศึกษาวิชาทหารพร้อมด้วยหลักฐาน ( กรณี ) นศท. มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และได้ขึ้นไปและได้ลงบัญชีทหารกองเกินได้รับหนังสือสำคัญ ( แบบ สด.๙ ) แล้ว ต้องนำหลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว – 
ชื่อสกุล ไปขอแก้หนังสือสำคัญ ( แบบ สด.๙ ) ที่สัสดีอำเภอภูมิลำเนาทาหารด้วย

   2. สถานศึกษา เมื่อได้รับการร้องขอการเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุล จาก นศท. พร้อมสำเนาหนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุล ( ช.1, ช.2, ช.3. หรือ ช.4 ) และ สด.๙ รวมทั้งสำเนาทะเบียน บ้านคนละ 1 ฉบับ ก็จะรายงานถึง นสร.. พร้อมแบบหลักฐาน
การเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุล จำนวน 1 ชุด

   3. ในส่วนกลาง ( กตพ.นสร.. ) เมื่อได้รับหนังสือ ตามข้อ 3.2 แล้ว จะปฏิบัติดังนี้
      3.1 ตรวจสอบรายชื่อจากบัญชีรายชื่อ ( รด.25 ) ว่า นศท. ที่สถานศึกษาทำเรื่องขอเปลี่ยนชือตัว – ชื่อสกุล
มานั้น มีสภาพเป็น นศท.หรือไม่
      3.2 บันทึก การเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุล ลงบัญชี ตามหลักฐานที่สถานศึกษาแนบมากับตัวเรื่อง
      3.3 ทำหนังสือนำเรียน จก.รด. เพื่อขออนุมัติการเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุลแล้วสำเนาแจกจ่าย ศฝ.รด. ( ปส.-
กฝ. ) จำนวน 2 ชุด และ สส.กกพ.รด. จำนวน 1 ชุด เพื่อบันทึกแก้ไขต่อไป
   4. ในส่วนภูมิภาค ศุนย์การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกหรือหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหารจังหวัดทหาร
บก หรือหน่วบยฝึกนักศึกษาวิชาทหารจังหวัดทหารบก เมื่อได้รับหนังสือตามข้อ 3.2 แล้วปฏิบัติดังนี้
      4.1 ตรวจสอบรายชื่อจากบัญชีรายชื่อ ( รด.25 ) ว่า นศท. ที่สถานศึกษาทำเรื่องขอเปลี่ยนมานั้นมีสภาพ
เป็น นศท. จริงหรือไม่
      4.2 บันทึก การเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุล ลงในบัญชีตามหลักฐานที่สถานศึกษาแนบกับตัวเรื่อง
      4.3 มีหนังสือรายงาน รด. เพื่อขอแจ้งการเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุล ของ นศท.
      4.4 รด. ( คส.กกพ.รด. ) ทำหนังสือนำเรียน จก.รด. เพื่อขออนุมัติการเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุล แล้วสำเนาแจกจ่ายศูนย์าการฝึกนักศึกษาวิชาทหารจังหวัดทหารบก ,ศฝ.รด. และ กทพ.กกพ.รด. เพื่อบันทึก
แก้ไขต่อไป